Custaga
เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ที่มีน้ำหนักเบา และไม่ทำให้เว็บไซต์ของคุณช้าลง
เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ที่มีน้ำหนักเบา
และไม่ทำให้เว็บไซต์ของคุณช้าลง
Custaga Alnalytic เป็นชุดคำสั่งวิเคราะห์เว็บไซต์ที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 1 KB ซึ่งน้อยกว่า Google Analytics Global Site Tag ถึง 45 เท่า ยิ่งไปกว่านั้น Custaga ยังช่วยลดน้ำหนักหน้าเพจ และจะช่วยให้หน้าเพจของคุณเลิกหน่วงอีกต่อไป
การทำให้เว็บไซต์สามารถดาวน์โหลดได้เร็ว มักจะเป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนาเว็บไซต์ ดังนั้นลองแทนที่ Google Analytic ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ที่มีขนาดเบากว่าอย่าง Custaga Analytic ดู แล้วคุณจะรู้สึกประหลาดใจกับความเร็วในการดาวน์โหลดเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงจะมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงด้วย ลองมาทำความรู้จักเราให้มากขึ้นกว่านี้
ทำไมฉันควรสนใจเรื่องความเร็วเว็บไซต์ด้วย
ผลประโยชน์ที่เราจะได้รับจากความเร็วในการดาวน์โหลดมีอะไรบ้าง และทำไมความเร็วของเว็บไซต์จึงเป็นส่วนสำคัญ เรามาลองมาดูใจความสำคัญของเรื่องเหล่านี้กัน
- เพราะคนส่วนใหญ่มักจะรู้สึกไม่พอใจกับการที่ต้องอดทนรอการดาวน์โหลดที่ยาวนานของเว็บไซต์ นั่นหมายถึงยิ่งเว็บไซต์ของคุณดาวน์โหลดช้ามากเท่าไหร่ พฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ที่จะทำก็คือ ฏการกดปุ่มย้อนกลับ หรือกดปิดไปเลย ซึ่งนั่นจะกระทบกับอัตราการตีกลับจากหน้าเพจของคุณด้วยทันที ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วอัตราการตีกลับของเว็บไซต์ที่มีการตีกลับภายใน 2 วินาทีจะเท่ากับ 9% และเปอร์เซ็นต์จะเพิ่มขึ้น หากหน้าเว็บไซต์ใช้เวลาในการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นมากขึ้น อัตราการตีกลับนี้สามารถมีเปอร์เซ็นต์สูงได้ถึง 38% สำหรับหน้าเพจที่ใช้เวลาถึง 5 วินาทีในการดาวน์โหลด ดังนั้นจงตั้งเป้าไว้ว่า เว็บไซต์ของคุณจะต้องใช้เวลาดาวน์โหลดไม่เกิน 2 วินาที
- เพราะเครื่องมือค้นหาอย่าง Google มักจะใช้ความเร็วในการดาวน์โหลดเป็นปัจจัยในการจัดอันดับบนหน้าค้นหาด้วย นั่นหมายถึงหากหน้าเพจของคุณดาวน์โหลดได้ช้า หน้าเพจของคุณอาจร่วงลงไปอยู่ในอันดับที่รองลงมาจากหน้าเพจที่มีอัตราการดาวน์โหลดที่เร็วกว่าได้ และจะส่งผลให้มีอัตราผู้เข้าชมน้อยลงกว่า คุณสามารถเรียนรู้หลักเกณฑ์การจัดอันดับหน้าเว็บไซต์ได้ที่นี่
- เพราะเบราซ์เซอร์อย่างเช่น Chrome จะมีการแจ้งเตือนผู้ใช้งาน หากหน้าเว็บใดมีอัตราการดาวน์โหลดช้า
- เพราะโดยทั่วไปแล้วหน้าเพจที่เบากว่าและเร็วกว่า จะใช้เวลาในการอัพโหลดและดาวน์โหลดน้อยลง นั่นหมายถึงหน้าเพจของคุณจะมีการใช้พลังงานที่น้อยลงด้วย ยิ่งเว็บไซต์ของคุณเบา อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ออัตราผู้เข้าชม 1 คน ก็จะน้อยลงตาม
ชุดคำสั่งข้อมูลการวิเคราะห์เว็บไซต์มีผลต่อขนาด และเวลาในการดาวน์โหลดเว็บไซต์อย่างไร
เครื่องมือวิเคราะห์หน้าเว็บไซต์ก็ใช้หลักการในการทำงานเหมือนองค์ประกอบอื่น ๆ บนหน้าเว็บไซต์ ที่จะสามารถเพิ่มความหน่วงในการดาวน์โหลดให้กับหน้าเว็บไซต์ได้ ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างของผู้ให้บริการเครื่องมือวิเคราห์ยอดนิยมทั้งของ Custaga และผู้ให้บริการอื่น ๆ
- Google Tag Manager https://www.googletagmanager.com/gtag/js 28 KB
- Google Analytics https://www.google-analytics.com/analytics.js 17.7 KB
- Matomo https://example.org/matomo.js 22.8 KB
- Custaga https://app.custaga.com/js/script.js <1 KB
Google Analytics ทำให้เว็บไซต์ทำงานช้าลงหรือไม่
เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์อย่าง Google Analytics นับว่าเป็นเครื่องมือยอดนิยมที่กว่า 50% ของจำนวนเว็บไซต์ทั้งหมดเลือกใช้ คำแนะนำในการเริ่มติดตั้งก็คือคุณจะต้องทำการติดตั้งโค๊ด Global Site Tag (gtag.js) ลงบนหน้าเว็บไซต์ของคุณก่อน
ด้านล่างนี้คือ ชุดโค๊ตคำสังของ Google Analytic ที่คุณต้องใช้
<!-- Global site tag (gtag.js) - Google Analytics -->
<script async
src="https://www.googletagmanager.com/gtag/js?id=UA-XXXXXXX-XX">
</script>
<script>
window.dataLayer = window.dataLayer || [];
function gtag(){dataLayer.push(arguments);}
gtag('js', new Date());
gtag('config', 'UA-XXXXXXX-XX');
</script>
https://www.googletagmanager.com/gtag/js มีขนาด 28 KB และชุดคำสั่งนี้จะทำการดาวน์โหลดไฟลล์ JavaScript อีกหนึ่งไฟลล์ที่ชื่อว่า Google Analytics tag (https://www.google-analytics.com/analytics.js) ซึ่งมีขนาดอยู่ที่ 17.7 KB ที่จำเป็นจะต้องติดตั้งลงบนหน้าเพจของคุณด้วย
ซึ่งชุดคำสั่งทั้งคู่ มีขนาดรวมกันอยู่ที่ 45.7 KB ที่คุณจะต้องทำการเพิ่มลงไปในทุก ๆ หน้าเว็บเพจของคุณ
Matomo
อีกหนึ่งเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ทางเลือกยอดนิยม เช่นเดียวกับ Google Analytics มีชื่อว่า Matomo (ก่อนหน้านี้มีชื่อว่า Piwik) ซึ่งมีเว็บไซต์หลายล้านเว็บที่เลือกติดตั้งเช่นกัน
วิธีการใช้งาน Matomo ในการติดตามวิเคราะห์เว็บไซต์ ก็คือ คุณจำเป็นจะต้องมีการวางชุดคำสั่ง matomo.js ลงบนหน้าเว็บเพจของคุณตามด้านล่างนี้รวมกันด้วย ตามตัวอย่างด้านล่าง
<!-- Matomo -->
<script type="text/javascript">
var _paq = window._paq || [];
_paq.push(['trackPageView']);
_paq.push(['enableLinkTracking']);
(function() {
var u="//{$MATOMO_URL}/";
_paq.push(['setTrackerUrl', u+'matomo.php']);
_paq.push(['setSiteId', {$IDSITE}]);
var d=document, g=d.createElement('script'),
s=d.getElementsByTagName('script')[0];
g.type='text/javascript'; g.async=true;
g.defer=true; g.src=u+'piwik.js'; s.parentNode.insertBefore(g,s);
})();
</script>
<!-- End Matomo Code -->
ซึ่ง matomo.js script จะทำให้น้ำหนักเว็บไซต์ของคุณเพิ่มขึ้นอีกถึง 22.8 KB
Custaga เป็นเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ที่มีน้ำหนักเบา ที่น้อยกว่า 1 KB
ในทุก ๆ ปริมาณความจุมักจะส่งผลกับอัตราการดาวน์โหลดเว็บไซต์ ซึ่ง Custaga ถูกพัฒนาขึ้นมาด้วยแนวคิดที่ต้องให้ใช้งานง่าย ดาวน์โหลดเร็วและมีประสิทธิภาพการทำงานสูงเป็นสำคัญ นั่นยังไม่นับรวมถึง Custaga ยังเลือกใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จะลดการใช้พลังที่ทำให้โลกร้อนให้ได้มากที่สุด
Custaga ที่มีขนาดเบากว่า 1 KB นั่นคือขนาดที่เบากว่าชุดคำสั่งเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ Matomo ถึง 22 เท่า รวมถึงมีขนาดเบากว่า Google Analytics Global Site Tag กว่า 45 เท่าด้วย
แต่ถึงแม้ว่าเจ้าของเว็บไซต์จะมีความรู้ในการใช้งานชุดคำสั่ง Google Analytics แบบไม่ต้องรวมกับคำสั่ง Google Analytics Global Site Tag ก็ยังถือว่า Custaga มีขนาดที่เบากว่าถึง 17 เท่า
ชุดคำสั่งของ Custaga บนเว็บไซต์ของคุณจะมีหน้าตาตามด้านล่างนี้
<script defer data-domain="domain.com"
src="https://app.custaga.com/js/script.js"></script>เราจะสามารถทดสอบความเร็ว และดูขนาดของชุดคำสั่งเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ที่ใช้อยู่ปัจจุบันได้อย่างไร
GTmetrix จะเป็นเครื่องมือที่คุณสามารถเลือกใช้ในการวัดความเร็วของเว็บไซต์ของคุณได้เป็นอย่างดี เครื่องมือนี้จะทำข้อมูลสรุปให้คุณแบบสั้น ๆ เป็นเป็นประโยชน์ อย่างเช่น PageSpeed Score ซึ่งก็คือระยะเวลาที่ใช้ในการดาวน์โหลดเพจ 1 หน้า
อีกหนึ่งรายงานที่น่าสนใจจาก GTmetrix ก็คือ แผนภูมิน้ำตก ซึ่งจะรายงานผลในแบบที่คุณต้องการโดยใช้ข้อมูลจากการดาวน์โหลดเว็บเพจบนเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงรายงานทุกส่วนประกอบบนเว็บไซต์พร้อมกับน้ำหนักและเวลาที่ใช้ในการดาวน์โหลด
คุณจะสามารถเห็น CSS ทั้งหมดของคุณได้จากที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือสื่อต่างๆ ไปจนถึงคุณจะได้เห็นชุดคำสั่งต่าง ๆ ทั้งหมดด้วย ดังนั้นลองดูที่ชุดคำสั่งของผู้ให้บริการเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ดู ว่าเครื่องมือนั้น ๆ เพิ่มน้ำหนักให้เว็บไซต์ของคุณมากขึ้นเท่าไหร่
ภาพด้านล่างคือหน้าตาของแผนภูมิน้ำตกของหน้าหลัก Custaga ซึ่งคุณจะเห็น script.js ซึ่งเป็นชุดคำสั่งติดตามของเรา และเป็นชุดคำสั่งเดียวกับที่สมาชิกคนอื่น ๆ ของเราใช้งานเช่นกัน
ทำไมชุดคำสั่งติดตามของ Google Analytics ถึงต้องมีขนาดใหญ่
เพราะคุณอาจจะต้องมีการติดตั้ง Global Site Tag และชุดคำสั่ง Universal Analytics ของ Google ที่ต้องใช้งานร่วมกัน ถ้าหากคุณต้องการแค่เพียงตัวเลขที่มีประโยชน์ต่อเว็บไซต์ของคุณเท่านั้น และเพื่อที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณดูสะอาดและเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แล้วทำไมถึงมีต้องมีขนาดใหญ่ด้วยหล่ะ? ซึ่งนั่นก็เพราะเครื่องมือของ Google ถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับการรวบรวมข้อมูลได้หลายรูปแบบ เช่น การติดตามการแปลง และ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ในขณะที่ตัวของ Google Analytics เองก็ต้องติดตามข้อมูลอื่น ๆ จากอีกหลายร้อยตัววัดผลที่ต่างกัน เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลให้ออกมาให้ได้ 125 รายงาน
ซึ่งต้องยอมรับว่ามีแค่บางคนที่ได้ประโยชน์จากรายงานเหล่านี้ แต่เจ้าของเว็บไซต์ส่วนใหญ่ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากขนาดนี้แน่นอน
Google Analytics มักแสดงรายงานบางส่วนที่เกินความจำเป็น และเป็นเครื่องมือที่วิเคราะห์เว็บไซต์ที่ไม่ยึดมั่นในความเป็นส่วนตัว ในการติดตามจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ ที่พวกเขาค้นเจอตั้งแต่ครั้งแรก และคอนเทนต์แบบไหนที่พวกเขากำลังสนใจอยู่
แต่ Custaga พุ่งเป้าไปที่การติดตามเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นสำหรับคุณเท่านั้น เพื่อให้คุณได้มั่นใจว่าชุดคำสั่งของเราจะมีน้ำหนักเบา เพราะเราไม่ได้มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวของใคร ใด ๆ ทั้งสิ้น
และด้วยเป้าหมายนี้ ทำให้เรานอกจากจะเป็นเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายแล้ว คุณยังสามารถมั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกอย่างครบถ้วน โดยที่ไม่ต้องมีการเรียนรู้ หรือมีประสบการณ์มาก่อน แต่นอกจากนั้นก็ยังมีเหตุผลอื่น ๆ อีก ที่ทำให้เราเชื่อว่า Custaga เป็น เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ทางเลือกที่ดีที่สุด
ยังมีอะไรอีกที่เราสามารถทำได้เพื่อลดน้ำหนักเว็บไซต์ สำหรับการดาวน์โหลดได้เร็วขึ้น
และต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณสามารถทำได้ เพื่อที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณทำงานเร็วขึ้น
- เมื่อวางแผนที่จะวางส่วนประกอบใหม่ ๆ ใด ๆ ลงบนเว็บไซต์ ต้องลองถามตัวเองว่าส่วนประกอบนั้น ๆ มีความจำเป็นมากแค่ไหน หรือถ้าคุณเจอว่ามีส่วนประกอบใดไม่จำเป็น คุณควรจะเอาออกไปจากหน้าเว็บไซต์ซะ
- ใช้รูปแบบตัวหนังสือที่มีไว้ให้แล้ว เพราะระบบรูปแบบตัวหนังสือเหล่านั้นมีอยู่แล้วบนอุปกรณ์ของผู้เข้าชม ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่มพื้นที่สำหรับการโหลดรูปแบบตัวอักษรเข้าไปอีก
- ใช้ภาพและวีดีโอให้น้อยลง เพราะภาพและวีดีโอมักจะกินพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าข้อความตัวอักษร ดังนั้นการลดการใช้สื่อต่าง ๆ สามารถทำให้ลดการใช้พื้นที่บนเว็บไซต์ของคุณได้เยอะขึ้นมาก
- ลดขนาดภาพลง ซึ่งคุณสามารถทำได้ด้วยการปรับขนาดรูปภาพ และ บีบอัดขนาดรูปภาพให้เล็กลงได้ รับรองว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณจะไม่สามารถสังเกตุถึงความต่างได้ หรือคุณอาจเลือกใช้ ImageOptim ที่เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยคุณจัดการเรื่องนี้ได้ดี หรือคุณอาจเลือกใช้ Squoosh ของ Google ก็สามารถใช้งานได้ดีเช่นกัน
- ลองแลือกใช้งานโหมด Lazy Loading กับภาพและวีดีโอที่จะทำให้ไฟลล์เหล่านั้นจะไม่โหลดจนกว่าผู้เข้าชมจะเลื่อนลงมายังตำแหน่งที่ไฟล์ถูกวางไว้
เว็บไซต์ของฉันกินไฟมากเท่าไหร่
ถ้าคุณอยากรู้ ลองเปิดเว็บไซต์ของคุณผ่าน Website Carbon Calculator ซึ่งเว็บไซต์นี้จะสามารถประมาณการให้คุณได้ว่าเว็บไซต์ของคุณทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนออกมาเท่าไหร่ต่อทุก ๆ หนึ่งผู้เข้าชม
เราลองคำนวนกันสักหน่อย ถ้าหากเราเพิ่ม Google Tag Manager ไปบน Google Analytics ลงบนเว็บไซต์ของเรา นั่นจะทำให้ชุดคำสั่งของเรามีขนาด 45.7 KB
แต่ชุดคำสั่งของ Custaga จะมีขนาดน้อยกว่า 1 KB ซึ่งถ้าหากคุณแทนที่ Google Analytics ด้วย Custaga คุณจะสามารถลดขนาดหน้าเว็บเพจได้ถึง 44.3 KB ต่อผู้เข้าชม 1 คน
หากเราลองคำนวนว่าเว็บไซต์ของเรามีผู้เข้าชม 10,000 คนต่อเดือน นั่นจะทำให้เราสามารถลดลงได้ถึง 443,000 KB (0.443 GB) ต่อเดือน ซึ่งหมายถึงเราสามารถลดการดาวน์โหลดลงได้ถึงครึ่ง GB ต่อเดือน สำหรับทุก ๆ 10,000 ผู้เข้าชม
นั่นทำให้เราสามารถประหยัดการดาวน์โหลดข้อมูลได้ถึง 5 GB ต่อปี แม้ว่าในความจริงแล้ว เราลดน้ำหนักเว็บไซต์ลงแค่เพียง 44.3 KB ใน 1 ชุดคำสั่งเท่านั้น ก็สามารถลดปริมาณการดาวน์โหลดข้อมูลบนเว็บไซต์ของคุณได้เยอะมาก
ตัวเลขโดยประมาณการนี้สามารถเปลี่ยนไปได้ในการศึกษาค้นคว้าที่ต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับเครือข่ายที่ใช้ด้วย แต่การคำนวนการปล่อยก็าซคาร์บอนของเว็บไซต์ถูกตั้งไว้ที่ 1.8 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงในการถ่ายโอนข้อมูลทุก 1 GB
นั่นอาจส่งผลให้เราสามารถลดการปล่อยก๊าชคาร์บอนลงได้ถึงประมาณ 10 กิโลวัตต์ ( ตัวเลขจริง ๆ คือ 9.6 ) ต่อปี สำหรับการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ในทุก ๆ 10,000 ครั้งต่อเดือน ซึ่งคำนวนจากชุดคำสั่งวิเคราะห์เว็บไซต์
อีกหนึ่งตัวเลขที่ไม่ง่ายในการตอบโจทย์ที่ชัดเจน ก็คือ ตัวเลขของความเข้มข้นคาร์บอนในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งเว็บไซต์ Carbon Calculator ได้ตั้งค่าไว้ที่การปล่อยก๊าซคาร์บอน 475 กรัม ต่อกิโลวัตต์
นั่นหมายถึงเราจะประหยัดไปเกือบ 10 กิโลวัตต์ต่อปี สำหรับการเข้าใช้เพียงหนึ่งเว็บไซต์ 10,000 ผู้เข้าชมต่อเดือน รวมถึงสามารถประหยัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง 4.5 กิโล
ดังนั้นจะสามารถลดการใช้ก๊าซคาร์บอนได้เกือบ 5 กิโลกรัมต่อปี สำหรับหนึ่งเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชม 10,000 คนต่อเดือน จากการลดขนาดเว็บไซต์ลง 44.3 KB
แม้ว่าตัวเลขเหล่านี้ จะเป็นตัวเลขที่ถูกประมาณการขึ้น แต่นั่นทำให้คุณสามารถจินตนาการได้ว่า ถ้ามีเจ้าของเว็บไซต์จำนวนหลายล้าน รวมถึงผู้ใช้ Google Analytic ร่วมมือกันลดขนาดเว็บไซต์ของตัวเอง เราจะสามารถลดจำนวนการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้จำนวนมหาศาล
ลองให้ Custaga ช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณเบาขึ้น
Custaga เป็นเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย เปิดกว้าง และมีขนาดเล็กเพียง 1KB ชุดคำสั่งวิเคราะห์เว็บไซต์ของเราเล็กกว่าของ Matomo ถึง 22 เท่า และมีขนาดเล็กว่า Google Analytic Global Site Tag ถึง 45 เท่า ยิ่งไปกว่านั้นเรายังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ถึง 100%
ลงทะเบียนเพื่อทดลองใช้ฟรี 30 วัน แล้วลองดูว่าเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ของเราจะสามารถทำให้เว็บไซต์ของคุณทั้งเร็วขึ้น และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้จริงหรือไม่
